รวมพล!! สุดยอดสายพันธุ์น้องหมาสุดแปลก
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว ด็อกไอไลค์ (Dogilike) ตลอดเดือนนี้บทความของเว็บไซต์ด็อกไอไลค์ (Dogilike.com)
จะเต็มไปด้วยเรื่องราวแปลกๆ เหลือเชื่อ
และน่าสนใจมากมายเกี่ยวกับน้องหมาที่เพื่อนๆ อาจจะยังไม่เคยรู้
และแน่นอนที่สุด
เรื่องที่เว็บไซต์ด็อกไอไลค์ไม่เคยพลาดก็คือเรื่องสายพันธุ์ของน้องหมาที่
น่าสนใจ โดยเดือนนี้เราจะมาเผยสายพันธุ์น้องหมาที่สุดแปลก สุดประหลาด
และไม่ธรรมดามาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันค่ะ ไปดูกันเลยยยย
1. ปูลิ (Puli)
ปูลิเป็นน้องหมาที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฮังการี
คอยทำหน้าที่ต้อนแกะตลอดทั้งช่วงวันและคืน
โดยเจ้าของฟาร์มแกะส่วนใหญ่จะเลือกเลี้ยงปูลิตัวสีดำเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย
ตัดกับสีขาวของตัวแกะ
ในขณะเดียวกันก็มีน้องหมาอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับปูลิแต่มี
ร่างกายที่ใหญ่โตกว่า นั่นก็คือโคมอนดอร์ (Komondor) ผู้
คอยทำหน้าที่เป็นฝ่ายบู้คอยป้องกันภัยต่อสู้กับฝูงสุนัขจิ้งจอกที่จะเข้ามา
ทำร้าย
ส่วนปูลิตัวเล็กก็รับหน้าที่เห่าเตือนภัยให้เจ้านายรู้และต้อนแกะกลับเข้า
คอกอย่างปลอดภัยค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 น้องหมาสายพันธุ์ปูลิถูกสังหารไปกับไฟสงครามจนเกือบสูญพันธุ์ โชคดีที่หลังจากนั้นมีผู้ผสมพันธุ์สุนัขได้เข้ามาช่วยเหลือให้สายพันธุ์นี้ อยู่รอดต่อไป และได้รับการขึ้นทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขในปีค.ศ. 1936
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 น้องหมาสายพันธุ์ปูลิถูกสังหารไปกับไฟสงครามจนเกือบสูญพันธุ์ โชคดีที่หลังจากนั้นมีผู้ผสมพันธุ์สุนัขได้เข้ามาช่วยเหลือให้สายพันธุ์นี้ อยู่รอดต่อไป และได้รับการขึ้นทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขในปีค.ศ. 1936
แปลกตรงไหน???
ทั้งปูลิและโคมอนดอร์ มีลักษณะขนที่ แปลกประหลาดไม่เหมือนใครด้วยขนยาวถึงพื้นม้วนตัวเป็นเกลียวเหมือนผมทรงเด ทร็อค ดูไปดูมากก็คล้ายๆ กับพรมเช็ดเท้า หากเจ้าปูลินอนอยู่กับพื้นอาจจะถูกเหยียบโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ค่ะ นอก จากนี้ขนที่ยาวจนปิดหน้าปิดตายังทำให้หลายคนสงสัยว่า ... พวกเขามองเห็นได้อย่างไร??!! แต่เชื่อไหมคะว่า ใครก็ตามที่เปิดขนทรงเดรดร็อคที่เป็นม่านปิดตาน้องหมาออก ก็จะได้มีโอกาสเห็นดวงตาทรงอัลมอนด์อันสดใสบวกกับรอยยิ้ม ต่างก็จะต้องตกหลุมรักพวกเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว
ส่วนการดูแลขนทรงเดรดร็อคของน้องหมาปูลิและโคมอนดอร์นั้น จำเป็นต้องดูแลอย่างพิถีพิถัน และค่อนข้างจะยุ่งยากสักหน่อย เนื่องจากการแปรงขนจะทำให้พวกเขาสูญเสียคาร์แร็คเตอร์ของทรงขน และทำให้พวกเขาเจ็บเมื่อต้องถูกดึงกระชากขนที่พันกันอยู่ให้แยกออกจากกัน วิธี ที่ดีที่สุดในการดูแลขนน้องหมาก็คือ พาไปร้านตกแต่งทรงขน แบ่งแยกเกลียวขนไม่ให้พันกัน และควรเป่าให้แห้งหลังอาบน้ำทุกครั้งนะคะ ก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
(อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้องหมาพันธุ์โคมอนดอร์ได้ที่บทความ โคมอนดอร์ น้องหมาผ้าขี้ริ้ว ค่ะ)
2. เม็กซิกัน แฮร์เลสส ด็อก (Mexican Hairless Dog / Xoloitzcuintli)
น้องหมาในตระกูลไร้ขนมักจะมีต้นกำเนิดอยู่แถบอเมริกากลาง ประเทศแม็กซิโก หรือทางแถบอเมริกาใต้ ประเทศเปรู อย่างสายพันธุ์ เปรูเวียน แฮร์เลสส ด็อก (Peruvian Hairless Dog/Peruvian Inca Orchid) ส่วนที่หลงอยู่ทางแถบเอเชีย ประเทศจีน ก็มีน้องหมาสายพันธุ์ไชนิส เครสเต็ด (Chinese Crested) ซึ่ง
น้องหมาไร้ขนเหล่านี้ถือได้ว่า เป็นสายพันธุ์ดึกดำบรรพ์มีอายุมากว่า 3,000
ปีเชียวค่ะ ส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงไว้โดยชนเผ่ามายันและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ
เพื่อใช้งานแบบวาไรตี้สุดๆ ไม่ว่าจะใช้เป็นน้องหมาบูชายัญ เป็นอาหาร
กินแก้โรคต่างๆ
รวมไปถึงการทำหน้าที่เป็นเครื่องทำความอุ่นให้แก่ผู้เลี้ยงได้นอนกอดแก้หนาว
เพราะร่างกายน้องหมาที่ไร้ขนจะช่วยให้ได้รับความอบอุ่นจากผิวหนังพวกเขาโดย
ตรง เห็นไหมคะว่าน้องหมาพันธุ์นี้ 3 in 1 สุดๆ อย่างไรก็ตาม
ชะตากรรมอันแสนเศร้าของเจ้าน้องหมาไร้ขนจบลงเมื่อช่วงค.ศ. 19
เปลี่ยนสถานะจากน้องหมาบูชายัญมาเป็นสัตว์เลี้ยง เพื่อนผู้ซื่อสัตย์
ถึงขั้นยกระดับเป็นน้องหมาช่วยเหลือของเพื่อนมนุษย์โดยสมบูรณ์ ...
โล่งอกไปที ^^
แปลกตรงไหน???
อย่างที่บอกไปค่ะว่าพวกเขาเป็นน้องหมาไร้ขน
ก็เลยแปลกกว่าน้องหมาพันธุ์อื่นๆ ที่เห็นทั่วไป
อาจจะมีขนขึ้นบ้างบริเวณศีรษะเล็กน้อย และปลายหางชี้ฟูไม่เป็นทรง แต่
ถ้าเป็นพันธุ์ ไชนิส เครสเต็ด ก็จะมีขนมากกว่าเม็กซิกัน แฮร์เลสส
ด็อกสักหน่อย โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ ปลายหาง และข้อเท้าทั้ง 4 ข้าง
นี่ยังไม่นับหน้าตาที่ออกจะขี้ริ้วขี้เหร่อย่างกับเป็นน้องหมาจากต่างดาว ...
แต่นั่นก็เป็นเพียงภาพลักษณ์ของเขานะคะ
เพราะเนื้อแท้ในจิตใจของเขาแสนจะน่ารัก เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
ความฉลาดเฉลียว ซื่อสัตย์สุดๆ ค่ะ ส่วนเรื่องขนแม้จะไม่ต้องดูแลมาก
ก็ควรดูแลผิวหนังไม่ให้ถูกแดดนะคะ
มิเช่นนั้นผิวอาจไหม้แดดและมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังได้ค่ะ
(อ่านเพิ่มเติมน้องหมาพันธุ์ไร้ขนได้ที่บทความ ไชนีส เครสเต็ด น้องหมาสายพันธุ์น่ากลัว http://www.dogilike.com/content/tip/547/ นะคะ )
3. นอร์วีเจียน ลาวด์ฮุนด์ (Norwegian Lundehund)
เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1600 น้องหมานอร์วีเจียน ลาวด์ฮุนด์ได้รับการฝึกเพื่อใช้ในการล่านกทะเลในประเทศนอร์เวย์
แต่หลังมีนโยบายอนุรักษ์พันธุ์นกทะเล พวกเขาจึงหมดประโยชน์
คนนิยมเลี้ยงน้อยลงและเกือบจะสูญพันธุ์ เหลือเพียงชุมชนเล็กๆ
ทางชนบทของนอร์เวย์เท่านั้นที่ยังคงเลี้ยงพวกเขาอยู่ ทำให้ในปี ค.ศ. 1963
เหลือน้องหมา นอร์วีเจียน ลาวด์ฮุนด์ เพียง 6 ตัวเท่านั้น!!! แต่โชค
ดีที่ต่อมาผู้พัฒนาพันธุ์สุนัขได้ร่วมกับรักษาสายพันธุ์นี้ไว้
จากสถิติของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขนอร์เวย์ในตอนนี้ก็มีน้องหมาอยู่ประมาณ
1,500 ตัว
และได้มีการรับรองโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขอเมริกาอย่างเป็นทางการเมื่อวัน
ที่ 1 กรกฏาคม 2008 ค่ะ
แปลกตรงไหน???
น้องหมานอร์วีเจียน
ลาวด์ฮุนด์มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก
สีขนด้านหลังเป็นสีน้ำตาล มีแซมสีดำเล็กน้อย ขนบริเวณช่วงอกมีสีขาว
พวกเขามีดวงตาที่น่าเกรงขาม ดุดันสมกับเป็นนักล่า แต่ที่แปลกที่สุดไม่มีใครเหมือนก็คือ พวกเขามีนิ้วเท้า 6 นิ้ว ซึ่งนิ้วที่เพิ่มมาอีกนิ้วก็คือ นิ้วติ่ง ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะสายพันธุ์ ไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่อย่างใดค่ะ อีก
ทั้งยังมีต่อกระดูกที่ยืดหยุ่นสุดๆ กล้ามเนื้อขาหลังมีพละกำลัง แข็งแรง
เคลื่อนไหวร่างกายและวิ่งได้อย่างรวดเร็ว
หูตั้งมีความสามารถในการได้ยินเสียงไกลว่าน้องหมาพันธุ์อื่นๆ
และสรีระที่มีความพิเศษนี้ก็มีไว้เพื่อล่านกทะเล ไม่ว่าจะกระโดดเหินฟ้า
ปีนป่ายหน้าผา หูไว สายตาเฉียบคม พร้อมจะล่าตะปบนกได้ทุกขณะ
สุดยอดน้องหมานักล่าจริงๆ
4. คาทาฮูลา ลีโอพาร์ด ด็อก (Catahoula Leopard Dog)
คาทาฮูลา ลีโอพาร์ด ด็อก น้องหมานักล่าสัตว์มีต้นกำเนิดอยู่ที่นอร์ธ เซ็นเตอร์ หลุยส์เซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นน้องหมาที่เกิดมาจากการผสมพันธุ์กันระหว่างน้องหมาพันธุ์เกรย์ฮาวนด์และมาสทิฟฟ์ แล้วต่อมาได้มีการผสมข้ามพันธุ์กับหมาป่าสีแดงซึ่งเป็นน้องหมาท้องถิ่นของหลุยส์เซียน่า แล้วยังผสมพันธุ์กับน้องหมาพันธุ์บิวเซรอน (Beauceron) ในอีก 100 ปีต่อมาโดยชาวฝรั่งเศษที่เข้ามาอาศัยอยู่ในหลุยส์เซียน่า ก็เลยกลายสภาพออกมาอย่างที่เห็นเนี่ยล่ะค่ะ
แปลกตรงไหน???
อย่างที่เราเห็นๆ อยู่ก็คงหนีไม่พ้นความแปลกของสีน้องหมาที่ผสมกันถึง 4 พันธุ์ จึง
มีสีที่แปลกประหลาด แตกต่างกัน เป็นลายกระดำกระด่างทั้งตัว
ยากที่จะระบุชี้ชัดว่าน้องหมาตัวสีอะไร
มีสีแต้มตำแหน่งไหนชัดเจนตรงตามมาตรฐานบางตัวก็มีสีพื้นเป็นสีเทา
บางตัวสีเหลือง บางตัวสีขาว นอกจากนี้ดวงตาสีเทา
มีจุดดำอยู่กลางดวงตาก็ยิ่งทำให้พวกเขาดูเหมือนน้องหมาแวมไพร์ ไม่มีแววตา
ดูเจ้าเล่ห์ วัยร้ายมากๆ บางตัวสีดวงตาต่างกัน น้ำตาลข้างหนึ่ง
เทาข้างหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นน้องหมาที่ระบุลักษณะประจำสายพันธุ์ได้ยากจริงๆ
เอาเป็นว่าเจ้าตัวลายเขรอะหน้าตาไม่รับแขกนี่แหละ คาทาฮูลา ลีโอพาร์ด ด็อก
5. เบอร์กามาสโค เชฟเฟิร์ด (Bergamasco Shepherd)
เบอร์กามาสโค เชฟเฟิร์ด เป็นน้องหมาต้อนแกะที่เก่าแก่มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอิตาลี พวก
เขาจะคอยต้อนฝูงแกะที่ต้องเคลื่อนย้ายจากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตกตาม
แคว้นต่างๆ ผ่านเทือกเขาอันกว้างใหญ่และหนาวเหน็บอย่างเทือกเขาเอฟส์ ทั้ง
ในประเทศฝรั่งเศสและประเทศอิตาลี
น้องหมาสายพันธุ์นี้จึงมีความทนทานต่อความยากลำบากของสภาพอากาศ
และภูมิประเทศ
นอกจากนี้พวกเขายังเป็นน้องหมาที่ถือว่ามีสัญชาตญาณของนักต้อนฝูงสัตว์อยู่
ในจิตวิญญาณอย่างเต็มเปี่ยม น่าทึ่งมากๆ ค่ะ
แปลกตรงไหน???
เบอร์กามาสโค เชฟเฟิร์ด มีรูปร่างและลักษณะขนคล้ายๆ
กับน้องหมาพันธุ์ปูลิ และโคมอนดอร์
น้องหมาต้อนแกะที่พริกได้เขียนไว้เป็นสายพันธุ์แรก หาก
แตกต่างกันตรงที่ลักษณะขนที่ไม่ได้ม้วนเป็นเกลียวเดรดร็อก แต่เป็นแผงคล้ายๆ
ขนติดสังกะตัง แลดูเหมือนพรมเช็ดเท้าที่เก่าๆ ไม่ได้รับการดูแล
หรือทำความสะอาดมาเนิ่นนาน ...
แต่นั่นก็คือเอกลักษณ์และตัวตนของเขาที่ไม่มีน้องหมาขนยาวพันธุ์ไหนสามารถ
ทัดทานความแปลกของขนหยิกสังกะตัง ดูสกปรกของพวกเขาได้
เลยต้องยอมยกธงขาวไปตามๆ กัน
6. แคมโบเดียน ราซอร์แบ็ค (Cambodian Razorback Dog)
น้องหมาพันธุ์นี้เป็นน้องหมาท้องถิ่นที่หายาก มีหลังอานคล้ายๆ กับน้องหมาไทยหลังอานของเราค่ะ แต่
น้องหมาพันธุ์นี้สัญชาติกัมพูชา
ถูกพบเจอครั้งแรกบริเวณลุ่มแม่น้ำโขงฝั่งกัมพูชา
และพบได้เฉพาะที่ประเทศนี้เท่านั้น
ส่วนมากจะอาศัยอยู่ที่พนมเปญไปจนถึงเขตรอยต่อที่ติดกับประเทศลาว คอมโบเดียน ราซอร์แบ็คเป็นน้องหมาที่สามารถเฝ้าบ้านได้ดี เป็นมิตรกับคนในครอบครัว และ สามารถล่าสัตว์ที่เข้ามาทำลายไรนาได้อีกด้วย
แปลกตรงไหน???
คอมโบเดียน ราซอร์แบ็คมีความแปลกตรงที่หลังอานของพวกเขา
ไม่ใช่หลังอานธรรมดาที่เราเห็นกันทั่วไป ทั้งในน้องหมาพันธุ์ไทย โรดิเซียน
ริดเจแบ็ค (Rhodesian Ridgeback) ของทางแอฟริกาใต้ แต่
เป็นหลังอานที่กินพื้นที่กว้างบนแผ่นหลัง
แล้วด้วยขนที่ยาวกว่าน้องหมาหลังอานทั่วไปจึงทำให้ขนกลางหลังตั้งขึ้นสูง
เหมือนกับคนทำผมทรงโมฮอก เท่สุดๆ ส่วนหางก็ม้วนขึ้นเป็นพวงคล้ายๆ
น้องหมาบางแก้ว เอ๊ะ! หรือแท้จริงแล้วน้องหมาคอมโบเดียน
ราซอร์แบ็คเป็นน้องหมาพันธุ์ไทยหลังอานผสมกับบางแก้วกันนะ
ถ้าที่บ้านเพื่อนๆ คนไหนมีน้องหมา 2
พันธุ์นี้ผสมกันอย่าลืมเอามาแชร์กันนะคะ
7. เบดลิงตัน เทอร์เรีย (Bedlington Terrier)
น้องแกะ เอ๊ย! น้องหมาเบดลิงตัน เทอร์เรียร์ หรือ รูธเบอรี่ เทอร์เรียร์ (Rothbury Terrier) ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาจากแถบชนบทของเมืองนอร์ธธัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ
ซึ่งแต่ก่อนมีชื่อเเดิมพวกเขามีชื่อว่ารูธเบอรี่ เทอร์เรียร์
โดยทำหน้าที่คอยขับไล่สัตว์ตัวเล็กตัวน้อย หนู
หรือแมลงที่คอยทำลายพืชพันธุ์ ไร่นา นอกจากนี้พวกเขายังถูกนำไปใช้ในการเล่นเกมกีฬา สังเวียนการต่อสู้ แข่งไล่ล่าสัตว์ เช่นเดียวกับน้องหมากลุ่มรีทรีฟเวอร์ทั้งหลาย เห็นหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาอย่างนี้ก็แข็งแรง เก่งกาจ และโหดไม่เบาเลยนะเนี่ย
แปลกตรงไหน???
รูปร่างหน้าตาของเจ้าเบดลิงตัน เทอร์เรียร์ ห่างไกลจากความเป็นน้องหมาที่เราเคยพบเห็น เพราะ
ออกจะหน้าตาเหมือนน้องแกะเสียมากกว่าเพราะมีขนที่หยิกฟู
หูยาวมักจะมีการตัดแต่งทรงขนให้เป็นพุ่มกลมๆ น่ารักๆ หน้าแหลม
ตาเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มดวงตาประกายสดใสจึงทำให้พวกเขาดูคล้ายตุ๊กตาแกะตัว
เล็กๆ ทั้งน่ารักน่ากอด เหมาะกับพาเดินเล่นตามท้องทุ่ง อย่างไรก็ตาม
การดูแลน้องหมาขนข้องหมาพันธุ์นี้ก็สำคัญมากๆ
ควรได้รับการพาไปตัดแต่งทรงขน แปรงขนเป็นประจำ
เพื่อให้ขนไม่เป็นสังกะตังค่ะ ใครสนใจเลี้ยงแกะ แต่หาเลี้ยงไม่ได้
ก็สามารถเลี้ยงเบดลิงตัน เทอร์เรียร์แทนได้นะคะ ^^
(เพื่อนๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้องหมาพันธุ์ เบดลิงตัน เทอร์เรียร์ ได้ที่บทความ เบดลิงตัน โคลนนิ่งแกะมารึเปล่าเนี่ย? นะคะ)
น้องหมาแต่ละสายพันธุ์ต่างมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป
น่ารักบ้าง ประหลาดบ้าง น่ากลัวบ้าง แต่ไม่ว่าภายนอกจะแปลกขนาดไหน
ภายในใจของพวกเขาก็ยังคงเป็นน้องหมาผู้ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ
พร้อมจะอยู่เคียงข้างครอบครัวอันเป็นที่รัก และต้องการความรัก
การดูแลเอาใจใส่เช่นเดียวกับน้องหมาทุกๆ ตัวค่ะ ว่าแต่ที่บ้านเพื่อนๆ คนไหน
เลี้ยงน้องหมาพันธุ์เหล่านี้
หรือพันธุ์ผสมที่ออกมาหน้าตาสุดแปลกก็สามารถนำมาแบ่งปันกันได้ที่ด็อกไอไลค์
ด็อทคอม (Dogilike.com) สังคมอบอุ่นของคนรักสุนัขค่ะ ^___^